วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ไม่ทุกข์ หากปล่อยวาง จิตว่าง : ชีวิตที่จิตว่าง คืออะไร อย่างไร พุทธทาสภิกขุ

ทุกข์เพราะยึด ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมวาง
เมื่อพูดถึง ความทุกข์กาย แล้ว สาเหตุ มีเยอะแยะไปหมด ความหิวความเจ็บป่วย แผ่นดินไหว อุบัติเหตุ อุทกภัย การปล้นจี้ ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุของความทุกข์ทางกาย แต่ถ้าพูดถึง ความทุกข์ใจแล้ว ก็มีอยู่สาเหตุเดียว นั่นคือ ทุกข์เพราะยึด



ความยึดติด ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมวาง คือ สาเหตุหลักที่ทำให้คนเรามีความทุกข์ใจ ยึดติดเรื่องอะไรบ้าง ก็ ยึดติดเรื่องราวในอดีต เช่น ความสูญเสียในอดีต โดยเฉพาะสูญเสียของรัก สูญเสียคนรัก รวมไปถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่ถูกกระทำโดยใครบางคน ที่จริงมันผ่านไปนานแล้ว แต่พอยึดเอาไว้ที่ใจ ไม่ยอมปล่อยวาง ก็เลยทุกข์ เจ็บปวดโกรธแค้น เสียดาย อาลัย ถ้าไม่ทุกข์เพราะยึดในอดีต ก็กังวลกับอนาคต เหตุร้ายยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็กังวลหรือตีตนไปก่อนไข้เสียแล้ว บางทีก็นึกถึงอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า บางคน เจ็บป่วย เพียงเล็กน้อย แต่ก็นึกปรุงแต่งไปไกลว่าฉันจะตายแล้วหรือนี่ ความกังวลกับอนาคตก็เป็นความยึดติดอีกแบบที่ทำให้เราทุกข์ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่นึกถึงอนาคต ความกังวลก็ไม่เกิด ความกลัว ก็เช่นกัน ส่วนใหญ่เรากลัวสิ่งที่ยังไม่เกิด ตอนนี้ยังสบายดีอยู่ แต่นึกถึงเหตุร้ายล่วงหน้า อันนี้เรียกว่า คิดข้ามช็อต ก็เลย ทำให้เป็นทุกข์ :)

นอกจาก ความยึดติดในอดีต ในอนาคต แล้ว สิ่งที่เป็นปัจจุบัน ถ้ายึดติดก็ทุกข์เหมือนกัน อย่างเช่น เสียงที่มารบกวนขณะที่เรากำลังนั่งสมาธิ เสียงโทรศัพท์ก็ดี เสียงรถยนต์ก็ดี อาจจะไม่ดังเท่าไหร่ แต่พอใจเราไปยึดติดเข้า ก็เป็นทุกข์ทันที เกิดความหงุดหงิด ไม่พอใจ ยิ่งปรุงแต่งต่อไปว่ามันไม่น่า มันไม่ควร เราก็ยิ่งเป็นทุกข์มากขึ้น เกิดโทสะ เกิดความโกรธ นี่ก็เรียกว่าเป็นเพราะยึดติดกับอารมณ์ปัจจุบัน อารมณ์ปัจจุบันอีกอย่างหนึ่งก็คือ เวทนา เรานั่งนานๆ หรือว่าอยู่กลางแดด ก็เกิดทุกขเวทนาขึ้น ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นเป็นของจริง ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต มันเป็นปัจจุบัน แต่พอใจเราปักตรึงลงไปตรงนั้น ทีนี้ไม่ใช่แค่ทุกข์กายแล้ว แต่ยังมีทุกข์ใจด้วย ถ้าเราไม่ปล่อย ไม่วาง ความทุกข์ก็ตามมา รบกวนจิตใจ ของเรา :)

ไม่ทุกข์ หากจิตว่าง การมีชีวิตที่จิตว่าง คืออะไร อย่างไร - พุทธทาสภิกขุ
ไม่ปวดหัว ไม่เป็นโรคจิตประสาท หากจิตว่าง
รู้กันหรือยัง รู้สิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่ผูกพันจากสิ่งใดๆ
ฉลาดนึกคิดได้รวดเร็ว ไม่โง่ไปยึดถืออยู่ตลอดเวลา
เรายึดถือ เราก็ไป โกรธ เกลียด มัน เป็นทาสของมัน เกิด โลภ โกรธ หลง
*****
ท่านสาธุชนผู้สนใจธรรมทั้งหลาย อาตมาจะพูดกับท่านทั้งหลายโดยหัวข้อว่า การมีชีวิตด้วยจิตว่าง การมีชีวิตด้วยจิตว่างนี้คืออะไร คือสิ่งที่ท่านยังไม่รู้ จะพูดใส่หน้ากรอกหูลงไปเลยว่า คือสิ่งที่ท่านยังไม่รู้ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตด้วยจิตว่างอย่างไร ไม่รู้ว่าการมีชิวิตด้วยจิตว่างอย่างไร ไม่รู้ว่าการมีชีวิตด้วยจิตว่างคืออะไร

การมีชีวิตด้วยจิตว่างก็คือ จิตที่รู้จักสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตามที่เป็นจริง ไม่ไปเป็นทาสของสิ่งใดๆ ไม่ไปติดผุกพันอยู่กับสิ่งใดๆ เป็นจิตว่าง เป็นจิตอิสระจากสิ่งทั้งหลายที่มีอยู่ในโลก อย่างนี้เรียกว่าจิตว่าง จิตฉลาด จิตคิดลึกได้รวดเร็วสำหรับจะว่าง ไม่เป็นจิตโง่ ง่มง่าม เข้าไปหลงใหลยึดถือในสิ่งใด ก่อนแต่จะทำ กำลังทำ ทำเสร็จแล้ว จิตโง่มันก็ยึดถือตลอดเวลา มันก็แบกภูเขาอยู่ตลอดเวลา มันเป็นจิตวุ่น เป็นจิตที่ติดอยู่กับสิ่งนั้นๆ มันไม่ว่างถ้ามีสติปัญญารู้เพียงพอในเรื่องของธรรมชาติ เรื่องกฏของธรรมชาติ เรื่องหน้าที่ตามกฏของธรรมชาติ เรื่องพ้นจากหน้าที่เป็นต้นแล้ว ก็รู้ว่าธรรมชาติทั้งหลายมันเป็นอย่งนั้นเอง จะไปหมายมั่นตามความต้องการของเราไม่ได้ เราก็ไปเกี่ยวข้อกับสิ่งเหล่านั้นโดยไม่ต้องหมายมั่น คือด้วยจิตที่เป็นอิสระ

มีจิตเป็นอิสระจากทุกสิ่ง นี้เรียกว่าจิตว่าง ว่างจากอะไร ว่างจากกิเลสที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น เต็มอยู่ด้วยสติปัญญาที่จะควบคุมสิ่งเหล่านั้น ที่จัดการกับสิ่งนั้นๆ ด้วยจิตที่เป็นอิสระ จึงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย สะดุ้งหวาดเสียว วิตกกังวล ระแวงไม่ต้องเป็นโรคประสาทให้ละอายแมว คนมีจิตวุ่นผูกพันกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนจะทำ กำลังทำ ทำเสร็จแล้วก็มีจิตวุ่นอยู่ด้วยสิ่งเหล่านั้น มันจะต้องเป็นโรคประสาท..

ไม่ทุกข์ หากปล่อยวาง จิตว่าง : ชีวิตที่จิตว่าง คืออะไร อย่างไร พุทธทาสภิกขุ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น